วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เทศกาลในเกาหลี

ฤดูร้อน
เทศกาลหิ่งห้อยมูจู (Muju Firefly Festival)



เทศกาลหิ่งห้อยมูจูจัดขึ้นทุกปีที่มูจู จังหวัดชลลาบุก-โด หิ่งห้อย (อนุสาวรีย์แห่งธรรมชาติ 322) เป็นแมลงที่สร้างแสงจากอวัยวะเรืองแสงพิเศษในตัวจะเป็นที่รู้กันว่าจะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมลพิษเท่านั้น ทุกวันนี้หิ่งห้อยลดจำนวนลงไปเนื่องจากสภาวะแวดล้อมที่ทรุดโทรมลง


เทศกาลหิ่งห้อยดึงดูดจำนวนนักท่องเที่ยวผู้รักธรรมชาติเพิ่มขึ้นทั้งจากในและต่างประเทศ เทศกาลกินเวลานาน 9 วันนับตั้งแต่พิธีเปิดและงานเต้นรำสวมหน้ากากและโปรแกรมอื่นๆที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวัน งานแสดงจำนวนหนึ่งในนี้ที่น่าสนใจคืองาน บัง-อัตกอรินอริ (การแสดงพื้นบ้านบนท้องถนนแบบโบราณ) การแข่งขันศิลปสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เกมการละเล่นพื้นบ้าน การพิมพ์หิ่งห้อยบนมือ นิทรรศการภาพถ่ายหิ่งห้อยตามระบบนิเวศน์ การไล่ล่าหิ่งห้อยที่จับยาก ชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ทางธรรมชาติ และอื่นๆ


เทศกาลวิทยาศาตร์แทจอน (Daejon Science Festival)



เริ่มขึ้นในปี 2000 เทศกาลวิทยาศาสตร์แทจอนเป็นงานแสดงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จัดให้แก่สาธารณชนในเกาหลี แทจอนถูกยกให้เป็นเมืองแห่งอนาคตของวิทยาศาสตร์ ล้อมรอบด้วยสถาบันพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งเกาหลี (KAIST) และหุบผาแททอกซึ่งทั้งสองแห่งนั้นเต็มไปด้วยนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีจำนวนมาก และอุทยานเอ็กซ์โปแทจอนซึ่งเป็นอุทยานเอ็กซ์โปที่ใหญ่ที่สุดในเกาหลี


ผู้มาเยือนจะได้รับโอกาสในการสัมผัสกับเทคโนโลยีล้ำยุคและวิทยาศาสตร์ที่กำลังจะเกิดขึ้นผ่านทางนิทรรศาการการแลกเปลี่ยนทางวิทยาศาสตร์นานาชาติซึ่งมุ่งหวังที่จะกระตุ้นให้เกิดความรวดเร็วในการแลกเปลี่ยนสารสนเทศไฮเทคและวิทยาศาสตร์ในบรรดาประเทศพัฒนาแล้ว ไซแอนซ์ เมจิก โชว์ ซึ่งแสดงปรากฏการณ์ทางวิทยาศาสตร์และการแสดงอื่นๆ


นอกจาก KAIST แล้ว สถาบันวิจัยอื่นๆในผาแททอก เช่น สถาบันทรัพยากรแห่งเกาหลี สถาบันวิจัยพลังงานอะตอมแห่งเกาหลี สถาบันวิจัยอวกาศและการบินยังเปิดให้ผู้มาเยือนในรายการทัวร์ทางวิทยาศาสตร์ นักท่องเที่ยวจะได้รับความเพลิดเพลินจากโชว์น้ำพุยามค่ำคืนที่เริ่มด้วยการเล่นดอกไม้ไฟอันน่าตื่นตาที่จัตุรัสฮันวิท (Hanvit Square) ในอุทยาน


ฤดูใบไม้ผลิ
เทศกาลผีเสื้อฮัมเปียง (Hampyeong Butterfly Festival)



เทศกาลผีเสื้อฮัมเปียงนำเสนอความอลังการของผีเสื้อนับหมื่นๆ ที่บินร่อนเหนือทะเลแห่งดอกไม้นานาพรรณในพื้นที่ถึง 33 ล้านตารางเมตรซึ่งอยู่อาศัยในแดนแห่งสวรรค์ฮัมเปียง เทศกาลนี้เป็นความพยายามครั้งแรกในโลกที่จะจัดเทศกาลซึ่งมีผีเสื้อและแมลงที่มีชีวิตกับธรรมชาติและได้รับการกำหนดเป็นครั้งแรกในปี 2003 ว่าเป็น "เทศกาลการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม"

ผีเสื้อบินโฉบไปมาเหนือทุ่งดอกเรบซีดที่บานสะพรั่งให้สีสันจินตนาการแห่งเทพนิยายให้กับเด็กๆและย้อนเวลากลับไปยังโลกแห่งจินตนาการเป็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ที่จะเก็บประสบการณ์ในระบบชีววิทยา มีการแสดงคอนเสิร์ต การประกวดภาพเขียนและการแสดงต่างๆ อีกมากมาย

เทศกาลชาน้ำค้างแห่งขุนเขาฮาดง (Hadong Mountain Dew Tea Festival)


ฮวาเก-เมียน (Hwagae-myon) ที่ฮาดงเป็นแหล่งของการเก็บเกี่ยวชาในเกาหลีเช่นเดียวกับ โบซอง ในจังหวัดชลลานัม-โด โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุนซู-รี (Unsi-ri) ในฮวาแก-เมียนได้รับการยกย่องว่าเป็นสถานที่ปลูกชาได้ดีที่สุดของเกาหลี ได้มีการเก็บเกี่ยวชาเกาหลีครั้งแรกที่นี่ในปี ค.ศ. 828 โดยเมื่อคิม แท-เรียม (Kim Dae-ryeom) ซึ่งเป็นอุปทูตเดินทางไปเชี่อมไมตรีกับราชวงศ์ถังของจีนได้เดินทางกลับมาพร้อมกับเมล็ดชาและเพาะปลูกลงบนเนินเขาในบริเวณนี้โดยคำสั่งของกษัตริย์ และแล้วบริเวณนี้ก็ได้เป็นแหล่งเพาะปลูกชาที่ดีที่สุดนับแต่นั้นมา


เพื่อเป็นการรำลึกถึงประวัติศาสตร์นี้ ฮาดง-กุนได้จัดเทศกาลชาป่าขึ้นทุกปี ชาเขียวป่าท้องถิ่นยังคงผลิตโดยใช้แรงงานคนและส่วนผสมของมันก็มีประสิทธิผลในการป้องกันมะเร็ง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ชาเขียวยังช่วยกำจัดสารไดอ็อกซินที่สะสมอยู่ในร่างกาย


เทศกาลนี้นำเสนอการแสดงที่มีการริเริ่มตระเตรียมขึ้นมาใหม่เช่นการแข่งขันชาพรีเมี่ยมแห่งปีและชาราชินีอันงดงาม
ผู้มาเยือนจะได้รับประสบการณ์ในการคัดเลือกใบชาและขั้นตอนการผลิตรวมถึงศิลปในพิธีดื่มชาแบบดั้งเดิม และมีรถรับส่งให้บริการตลอดงาน

ฤดูใบไม้ร่วง
เทศกาล ขอบฟ้ากิมเจ (Gimje Horizon Festival)


ตั้งอยู่ ณ ที่ราบอันกว้างใหญ่บริเวณตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดชลลาบุก-โด กิมเจถูกกล่าวขานว่าเป็นยุ้งฉางแห่งประเทศเกาหลี ณ ผืนดินที่มีธัญญาหารเหลือเฟือนี้มีเขื่อนชลประทานบยอคกอลเจ ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยอาณาจักรแพ็กเจ (18 ปีก่อน ค.ศ. - ค.ศ. 660) ศูนย์แสดงนิทรรศการการชลประทานบยอคกอลเจ จัดแสดงมรดกตกทอดของประวัติศาสตร์แห่งการกสิกรรมของเกาหลีและการชลประทาน เทศกาลขอบฟ้ากิมเจให้ผู้มาเยือนได้รับโอกาสซึ่งหาได้ยากในการลงแขกเกี่ยวข้าวในบริเวณรอบๆ เขื่อนชลประทานบยอคกอลเจ


โปรแกรมที่สำคัญๆรวมถึงโปรแกรมหนึ่งวันในหมู่บ้านชาวนา การแข่งขันการปรุงอาหาร ทัวร์ทุ่งนาบนเกวียนเทียมและการทำหุ่นไล่กา การละเล่นอื่นๆที่รวมอยู่ด้วยอาทิ เช่น การแข่งชักกะเย่อ การแสดงดนตรีของช่างผู้เชี่ยวชาญทรัพย์สินทางวัฒนธรรม และการแสดงพื้นบ้านอันเปี่ยมด้วยไมตรีจิต การแสดงสำคัญอื่นๆที่สะท้อนวัฒนธรรมการปลูกข้าวเช่น ปัญจกรีทา การแข่งขันมวยปล้ำ ซีรึม (Ssireum) และการแสดงการก่อกองฟางกลางแจ้ง ในบริเวณใกล้เคียงยังมีวัดคึมซานซา (Geumsansa) ซึ่งอายุ 1,400 ปีตั้งอยู่ วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงว่าเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธไมตรียา วัดมังแฮซา (Manghaesa Temple) ที่ดูน่าพรั่นพรึงตอนอาทิตย์อัสดงบนฝั่งทะเลเหลืองและท่าเรือซิมโป (Simpo Port) ซึ่งมีภัตตาคารปลาทอดตัวไปตามฝั่ง

เทศกาลโคม ชินจู นัมกัง (Jinju Namgang Lantern Festival)


ประเพณีการลอยโคมในแม่น้ำนัมกังในชินจูย้อนวันเวลาไปยังการรุกรานเกาหลีโดยญี่ปุ่นใน 1592 ในเดือนตุลาคมปี 1592 ช่วงระหว่างสงครามระหว่างเกาหลีกับญี่ปุ่นรอบๆ ป้อมชินจูซองนั้นชาวชินจูได้ปล่อยโคมขึ้นบนท้องฟ้าเหมือนกับเป็นสัญญาณทางทหารและเครื่องมือในการสื่อสารกับทหารภายนอกป้อมในขณะที่โคมลอยก็ได้จุดไปตามแม่น้ำนัมกัง


เทศกาลโคมชินจู นัมกัง ได้จัดขึ้นตั้งแต่ปี 2000 โดยขยายและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากประเพณีการลอยโคมซึ่งปฏิบัติมาทุกปีตั้งแต่ปี 1949 ผู้มาเยือนจะได้ชมการแสดงต่างๆอันหลากหลาย อาทิ โคมอธิษฐานรูปเฉลียงชกซองนู (Chokseongnu Pavilion-shaped wishing lanterns) เทศกาลโคมโลก และดอกไม้ไฟริมฝั่งน้ำเป็นการแสดงรายวันในเทศกาล


การแสดงที่สำคัญรวมถึงนิทรรศการโคมโลก การแขนโคมอธิษฐาน การลอยโคม การประดิษฐ์โคม การจุดดอกไม้ไฟริมฝั่งน้ำ การปล่อยโคมและอื่นๆ