วันอาทิตย์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2553

เทศกาลในสเปน

เทศกาลมะเขือเทศ (La Tomatina Festival)


           เป็นเทศกาลการ ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในวันพุธสุดท้ายของเดือนสิงหาคม ณ เมืองBunol ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ห่างจาก วาเล็นเซีย (Valencia) ไปประมาณ 40 กม. โดยมีการเล่าขานกันมากมาย ถึงตำนานของการเล่นปามะเขือเทศ บางคนเชื่อว่า มาจากเพื่อนสองคน รับประทานอาหารอยู่ในร้าน แล้วเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นก็หยิบอาหารมาปาใส่กัน และต่อมาก็เริ่มมีการเลียนแบบ ซึ่งเริ่มจากนอกร้าน ไปทั่วทั้งชานเมืองแล้วขยายวงกว้าง ออกไปตามเมืองใกล้เคียง


บางคนเชื่อว่าเทศกาลมะเขือเทศ เริ่มขึ้นประมาณ ในปี 1940 ที่ว่ากันว่าเกิดจากความโกรธแค้น ของนักดนตรีคนหนึ่ง ที่พบเห็นความขาดแคลน ของชาวเมืองในยุคที่นายพลฟรังซิสโก ฟรังโก ปกครองระบอบเผด็จการ


อีกตำนานหนึ่งเชื่อว่า มาจากกลุ่มคนที่อยากแกล้งคน ที่กำลังเดินถนนในเมือง โดยร้องเพลงและเล่นดนตรีไปด้วย แต่เขาเล่นได้ไม่ดี คนในเมือง จึงหยิบผักและผลไม้ ที่แผงลอยปาใส่แต่ที่มากหน่อย คงจะเป็นมะเขือเทศ ปากันไปปากันมาจนลุกลามมากขึ้น กลายเป็นศึกปามะเขือเทศ


แต่ตำนานที่น่าเชื่อถือที่สุดคือ การเริ่มต้นขึ้นในปี 1945 โดยกลุ่มวัยรุ่นต้องการร่วมขบวนพาเหรด "Gigantes y Cabezudo" แต่เล่นผลักกันไปผลักกันมา ชนคนในขบวนที่อยู่ในชุดยักษ์ล้มลง เมื่อลุกขึ้นมาได้เขาจึงทำร้ายทุกคนรอบตัว ทำให้เกิดการชุลมุน เริ่มมีการขว้างปาสิ่งของใส่กัน ไม่รู้ว่าเป็นโชคชะตา หรือความบังเอิญมีแผงลอย ขายผักผลไม้อยู่บริเวณนั้น มันจึงเป็นของที่ใกล้มือที่สุด(หนึ่งในนั้นมีมะเขือเทศด้วย) ซึ่งพอจะนำมาใช้เป็นอาวุธ ที่ใช้ขว้างใส่กันอย่างอุตลุด จนกระทั่งตำรวจต้องเข้ามายุติความวุ่นวาย การจราจลในครั้งนี้ไม่ได้ถูกลืมเลือนไป โดยในปีต่อมา กลุ่มวัยรุ่นได้รวมตัวกันอีกครั้ง พร้อมด้วยมะเขือเทศ ที่นำมาใช้เพื่อเขวี้ยงใส่กัน และยุติลงอีกครั้งด้วยตำรวจท้องถิ่น


ต่อมาในปี 1950 ได้มีการอนุญาตให้จัดงานเทศกาลที่เมืองBunol แต่ปีต่อมาก็ไม่ได้สามารถจัดงานได้อีก เนื่องจากเกิดการทะเลาะวิวาท ของกลุ่มวัยรุ่น แต่อย่างไรก็ตามชาวเมืองยังยืนยันว่า พวกเขาต้องการให้มีประเพณีเช่นนี้ เกิดขึ้นอีก ฝ่ายบริหารจึงยอมให้มีการจัดงานขึ้น แต่ความวุ่ยวายก็ยังไม่จบลง เมื่อมีการเล่นเกิดขอบเขต มีการขว้างปามะเขือเทศใส่ผู้อื่น ที่ไม่ได้เข้าร่วมงาน สร้างความเสียหาย ด้วยการกระโดดลงไปในน้ำพุเทียม จึงมีการสั่งห้ามอีกครั้ง พร้อมออกกฏหมายลงโทษขั้นรุนแรงกับผู้ที่ฝ่าฝืน แต่ด้วยความปรารถนาอย่าแรงกล้า ของชาวเมืองที่ต้องการให้มีเทศกาลนี้ จึงมีการเดินขบวนเพื่อเรียกร้อง ให้มีการจัดเทศกาลมะเขือเทศ ขึ้นอีก จึงได้มีการยินยอม ให้จัดงานนี้ขึ้นอย่างเป็นทางการได้อีกครั้ง ในปี 1959 ภายใต้ขอบเขต เช่น ห้ามขว้างปาสิ่งอื่นใดนอกจากมะเขือเทศ นับแต่นั้นมา เทศกาลมะเขือเทศ หรือสงครามมะเขือเทศ ก็จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และยังถือเป็นการเฉลิมฉลองนักบุญซาน ลุยส์ เบอร์แทรม (SAN LUIS BERTRAM) ซึ่งเป็นนักบุญประจำเมืองไปด้วย

17 ความคิดเห็น:

  1. โหยยยยยยยย
    เสียดายมะเขือเทศอะ

    ตอบลบ
  2. ไม่กินเอามาให้เค้าก็ได้^^

    ตอบลบ
  3. น่าสนุกจัง

    อยากเร่นมั่ง

    ตอบลบ
  4. เทศกาลนี้เกิดจากการทะเลาะกันหรอ

    แล้วทำไมถึงต้องเป็นมะเขือเทศด้วยนะ

    ???

    ตอบลบ
  5. เทศกาลนี้วุ่นวายกันจังนะ

    ตอบลบ
  6. เละเทะมากเลยเปลืองซอสมะเขือเทสสุดๆๆๆๆๆๆ

    ตอบลบ
  7. น่าสนุกดีเนอะ
    ปามะเขือเทศกันๆ



    แต่อย่างนึง
    เสียดายมะเขือเทศอะ

    ตอบลบ
  8. เค้าอยากไปสเปน
    ประเทศที่เต็มไปด้วยอารยธรรม

    แล้วเทศกาลนี้ก็
    น่าสนุกสุดๆ

    ถ้าเก็บกดอยู่แล้วมาเที่ยวเทศกาลนี้..
    คงเป็นวิธีปลดปล่อยที่ดีทีเดียว เนอะ

    ตอบลบ
  9. น่าจะเปลี่ยนจากมะเขือเทศเป็นอย่างอื่นนะ


    (เสียดายมะเขือเทศ)


    สงสัยจะโกรธกันน่าดูซัดไม่หยุดเลย

    ตอบลบ
  10. OoOo อยากให้มีเทศกาลแบบนี้ ในไทย บ้าง อ่า

    ตอบลบ
  11. หยี้....

    แองจี้ หยะแหยง

    ตอบลบ
  12. เลอะเทอะน่าดู
    แต่ก็น่าหนุกดี อยากไปมั่ง^^

    ตอบลบ
  13. ง่า
    จากกลุ่มคนที่อยากแกล้งคนหรอ
    เสียใดมะเขือนะ แกล้งไม่เข้าเรื่องเลยอะ
    รู้มัยมันเสียใดดดดดดดดดดดด

    ตอบลบ
  14. แบบนี้เวลาแค้นคัย
    ไปชวนเร่นน่าจะสนุกมากๆแน่
    ไม่มีคัยได้รับบาดเจ็บอีกด้วย

    ตอบลบ
  15. น่าหนุกอ่ะ
    ที่ไทยน่าจะจัดมั่ง
    แต่อย่าเรยเสียดายมะเขือเทศ
    (ขี้เกียจเก็บกวาดด้วย อิอิ)

    ตอบลบ